เคยสงสัยมั้ยคะว่า เวลาเลือกซื้อน้ำหอม แล้วมีคำอธิบายเรื่องกลิ่นพวก Top / Middle / Base Notes ที่เค้าพูด ๆ กันมันคืออะไรกันแน่ วันนี้ Gorgiusgirls จะมาอธิบายให้ฟังค่ะ
Top Note คือ
กลิ่น Top notes ของน้ำหอมก็คือกลิ่นที่โดดเด่นเป็น first impression หรือบางทีเราเรียกกันว่า เป็นกลิ่น opening notes หรือ head notes เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมที่ระเหยส่งกลิ่นอออกมาเป็นตัวแรกสุด โดยทั่วไปแล้วจะเป็นกลิ่นที่เบาที่สุดในบรรดา notes อื่น ๆ สามารถรับรู้และบอกได้ทันทีว่าเป็นกลิ่นอะไรหลังจากเปิดหรือฉีดน้ำหอม โดยกลิ่นช่วงนี้จะอยู่ได้ประมาณช่วง 10 – 20 นาทีแรกหลังจากฉีดน้ำหอมและกลิ่นจะค่อย ๆ เฟดไป
- กลิ่นทั่วไปของ top notes ประกอบด้วย citrus (lemon, orange zest, bergamot), light fruits (grapefruit, berries) และ herbs (clary sage, lavender).
Middle Note คือ
Middle notes หรือ heart notes, จะเป็นกลิ่นที่เข้ามาแทนที่หลังจากที่กลิ่น top notes จางหรือระเหยไปแล้ว เราเรียกว่าเป็น “กลิ่นหลัก” ทำให้กลิ่นน้ำหอมโดยรวมสตรองคงทนมากขึ้น กลิ่นจะอยู่นานกว่า มักจะเป็นกลิ่นตระกูลดอกไม้ หรือผลไม้ บางครั้งมีการนำ ไปผสมกับ spices เช่น cinnamon, nutmeg or cardamom เพื่อเพิ่มความหอมนุ่มละมุน โดยกลิ่นของ heart notes จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 3 – 6 ชม หลังจากฉีดน้ำหอม
- กลิ่นทั่วไปของ middle notes มักจะเป็นกลิ่นตระกูล floral เช่น geranium, rose, lemongrass, ylang ylang, lavender, coriander, nutmeg, neroli และ jasmine.
Base Note คือ
base notes เป็นกลิ่นสุดท้าย หลังจากที่กลิ่น top notes หายไปหมดแล้ว ซึ่งจะเกิดจากการผสมกันกับ middle notes สร้างกลิ่นหอมคงทนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเป็นช่วงที่น้ำหอมเริ่มค่อย ๆ แห้งลง จนกลายเป็นกลิ่นสุดท้ายที่ติดตรึงอยู่บนตัวเราหรือที่เรียกกันว่า the lasting impression นั่นเอง สามารถอยู่ได้นานถึง 24 ชม
โดยหัวน้ำหอมที่นำมาทำเป็น base notes มักทำจากสารประกอบโมเลกุลใหญ่
ที่ระเหยได้ช้ากลิ่นไม่รุนแรง ซึ่งจะเป็นกลิ่นที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติของแต่ละบุคคล
เช่น กิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวัน, สภาพอากาศ, สภาพแวดล้อม
- กลิ่นทั่วไปของ base notes มักจะเป็นกลิ่นตระกูลแมกไม้ เช่น cedarwood, sandalwood, vanilla, amber, patchouli, oakmoss และ musk