Niacinamide มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ Nicotinamide หรือ Vitamin B3 ชนิด Safe-B3™ เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูง คงทนต่อแสง ความร้อน ความชื้น สภาพกรด-ด่างได้เป็นอย่างดี เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลาย ๆ ด้านที่สำคัญคือมีโอกาสระคายเคืองต่ำมาก ๆ บทความของ Gorgiusgirls ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักคุณประโยชน์แบบเจาะลึกของวิตามินตัวนี้กันมากขึ้น
NIACINAMIDE ช่วยรักษาสิว
งานวิจัยในปี 1999 ได้ทำการทดสอบนำ niacinamide gel เข้มข้น 4% และ 1% clindamycin gel มาทดลองใช้เปรียบเทียบกัน (เจลฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมารักษาสิว) พบว่าหลังจาก 8 สัปดาห์ คนไข้ 82% ที่ได้รับการรักษาด้วย niacinamide เห็นผลลัพธ์ของผิวที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับคนไข้ที่ได้รับการรักษาด้วย clindamycin เห็นผลลัพธ์ดีขึ้นเพียง 68% ของคนไข้เท่านั้น
เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
งานวิจัยในปี 2000 ที่เผยแพร่ใน the British Journal of Dermatology พบว่า Niacinamide ช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่บนผิวและยังช่วยเสริมสร้างกรดไขมันธรรมชาติบนผิวซึ่งจะช่วยในเรื่องของผิวชุมชื่นได้เป็นอย่างดีและคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งคือช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิวนั่นเอง ซึ่งการที่ผิวสูญเสียน้ำน้อยลงหมายความว่าจะทำให้ผิวมีน้ำกักเก็บเยอะมากขึ้นผิวนุ่มขึ้นและลดอาการระคายเคืองได้ดีขึ้นนั่นเอง ยังมีอีกหนึ่งงานวิจัยค้นพบว่าสารตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นกว่า ปิโตรเลียมเจล หรือวาสลีน ยาสามัญที่เรามีกันไว้ทุกบ้านนั่นเอง
ลดเลือนริ้วรอย
งานวิจัยปี 2004 พบว่าสารตัวนี้ช่วยพัฒนาและฟื้นบำรุงผิวให้ผิวดี ลดการมองเห็นของเส้นและริ้วรอยต่างๆบนผิวได้ดีอีกด้วย ซึ่งเกิดจากวิตามินตัวนี้เข้าไปกระตุ้นให้ผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนที่มากขึ้น โปรตีนที่อยู่ในสารตัวนี้จะเข้าไปทำให้ผิวดูเฟิร์มขึ้นนั่นเอง ยิ่งผิวมีคอลลาเจนมากเท่าไหร่ ก็จะส่งผลให้ผิวหน้าดูอิ่ม สุขภาพดี มองไม่เห็นริ้วรอยนั่นเอง
ในท้องตลาดเราอาจจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น Collagen Booster ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Vitamin C , Retinol ที่เป็นส่วนผสมยอดฮิตเช่นกันในเรื่องของการลดริ้วรอย แต่ไม่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย อาจเกิดการระคายเคืองจนก่อให้เกิดรอยแดงตามมาได้ ดังนั้นทางเลือกของคนผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้ Niacinamide แทน จะอ่อนโยนมากกว่า ทุกสภาพผิวสามารถใช้ได้โดยไม่เกิดการระคายเคือง (หากใช้อย่างถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสม)
ลดอาการอักเสบของผิว
ผิวอักเสบที่หน้า เป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คนมาก เพราะเมื่อเกิดอาการอักเสบแล้ว เรามักจะหยุดใช้สกินแคร์ที่เคยใช้อยู่ทันที และก็ไม่รู้จะหาอะไรมาระงับความแดง ความแสบ ความคันเหล่านี้ได้ บางครั้งอาจทำให้นอยด์กันไปเลยทีเดียวเพราะรู้สึกว่าผิวจะไม่ได้รับการทำบำรุงที่ดี
มีหนึ่งงานวิจัยในปี 2005 พบว่า หากเราใช้ moisturizer ที่มีส่วนผสมของ Niacinamide เป็นประจำเช้า-เย็น เป็นเวลา 1 เดือน จะช่วยให้ผิวมีเการาะป้องกันที่ดีขึ้น นั่นหมายความว่าผิวของเราจะแข็งแรงขึ้น อาการอักเสบ คัน รอยแดงต่าง ๆ จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ผิวกระจ่างใส
หากใครชอบอ่านส่วนผสมข้างกล่องของสกินแคร์อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกินแคร์ของประเทศเกาหลีจะพบว่า มี Niacinamide อยู่ในสกินแคร์ของประเทศเค้าหลายตัว เพราะช่วยในเรื่องความขาวกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำจากสิวและปรับสีผิวให้ดูเท่ากันนั่นเอง มีผลงานวิจัยหลายหลายงานวิจัยออกออกมาบอกแล้วว่ามันช่วยในเรื่องของความกระจ่างใสได้จริงๆโดย ในปี 2002 นักวิจัยกลุ่มหนึ่งค้นพบว่า ครีมและครีมกันแดดที่มี Niacinamide เข้มข้น 2% – 5% สามารถช่วยลดเลือนรอยจุดด่างดำต่างๆและช่วยเพิ่มความกระจ่างใสได้ภายใน 4 สัปดาห์หากใช้ติดต่อกัน
งานวิจัยในปี 2011 พบว่าหากใช้ Niacinamide เข้มข้น 4% จะช่วยได้ดีในเรื่องของการลดฝ้า ซึ่งอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีนักเมื่อเทียบกับ hydroquinone แต่ niacinamide เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโดยเฉพาะอย่างกับผิวที่อ่อนโยน