Le Labo กลิ่น Another 13 เป็นน้ำหองขวดที่ 2 ในชีวิตที่รู้สึกคุ้มเงินมากราคาสูง แต่ว่าไม่เสียดายเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ได้ลองใช้เองจริงๆแล้วมันติดทนจริงแค่ 2-3 สเปรย์ติดทนไป 7- 8 ชม. เลยอะติดทนถึงขนาดที่อาบน้ำแล้วกลิ่นก็ยังอยู่ขนาดทา Body oil กลิ่นยังทะลุ body oil งงเว่อร์
เล่าประวัติกลิ่นนี้คร่าวๆ นะ ตอนปี 2021 Lelabo กับ นิตยสาร AnOther เค้าร่วมงานกัน ตกลงกันว่าจะทำน้ำหอมแบบ Exclusive ขึ้นมา เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ บรรณาธิการคนสำคัญนึงของเค้า
มันก็เลยกลายเป็นว่าการปรุงน้ำหอมกลิ่น Another 13 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลิ่นนิตยสารที่เราเคยเปิดๆอ่านกันในอดีตเนี่ยแหละ มีความกระดาษผสมหมึกปนเปกันไป โน้ตหลักของมันคือ synthetic animal musk มันเป็นกลิ่นสังเคราะห์เพื่อเลียนแบบกลิ่นติดตัวของสัตว์
จริงๆในวงการน้ำหอม กลิ่น Musk มักจะถูกอธิบายว่า เฃเหมือนกับกลิ่นที่ติดตัวของมนุษย์ที่มีบางสิ่งที่เราไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคือกลิ่นอะไร ฟีลกลิ่นเหงื่อผสมแป้งที่อยู่บนเนื้อตัวของมนุษย์ เป็นกลิ่นคาวหวานที่มีความเชื่อว่ามันอาจจะดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้ามได้ และในกลิ่นนั้นมีเรื่องของกามารมณ์ซุกซ่อนอยู่
กลับมาที่ที่มาของชื่อ Another 13 เกิดจาก synthetic animal musk + กับอีก 12 กลิ่น เช่น jasmine, moss and ambrette seeds เป็นน้ำหอม Unisex นะคะ ใช้ได้ทุกเพศ ฉีดสเปรย์แรกก็รู้สึกอีหยังวะเหมือนกัน กลิ่นมันทุ้ม ๆ ต่ำๆ แบบบอกไม่ถูก มันทำทำให้เรารู้สึกสงสัย แล้วอยากดมไปเรื่อยๆ ความหอมช่วง 10-15 นาทีแรกยังออกมาไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยไว้บนผิวสักพัก กลิ่นมันจะเริ่มชัดขึ้น ความ woody ผสมกับ Musky มันเริ่มออกมาชัดขึ้นละ แอบมี Floral แทรกๆขึ้นมาด้วย กลิ่นนุ่มละมุน หวานขึ้นค่ะ เป็นกลิ่นที่สบายจมูกไม่ฉุน ไม่หวานเลี่ยน เป็น Eau De Parfum ที่กลิ่นติดทนพอสมควร
ส่วนตัวใช้แล้วมีคนชมว่าหอมดี ดูเป็นกลิ่นสุภาพ คนทักตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ยังได้กลิ่น ตอนเหงื่อออกก็ไม่ได้รู้สึกว่ากลิ่นตีกันเท่าไหร่ รู้สึกว่ามันส่งเสริมกันไปอะ รู้สึกมันทำให้กลิ่นตัวเราหวานขึ้นแฮะ สรุปคือชอบมากกกกกกก ถ้าหมดจะซื้อใช้ต่อและในอนาคตจะจัดกลิ่นอื่นๆ มาเพิ่มแน่นอนค่ะ
ขวด 30 ml ราคาราว ๆ 5,000 กว่าบาทนะคะ ราคาไม่นิ่งขึ้นอยู่กับว่าซื้อประเทศไหนด้วย
แต่ต้นกำเนิดเค้าอยู่ที่อเมริกาค่ะ คิดว่าที่อเมริกาน่าจะราคาดีที่สุด